ทำไมบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตในประเทศไทยต้องเป็นแบบชิปการ์ด

ทำไมบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตในประเทศไทยต้องเป็นแบบชิปการ์ด?

 

บัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตในประเทศไทยต้องเปลี่ยนมาใช้แบบชิปการ์ดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งชิปการ์ดมีข้อดีเหนือบัตรแบบแถบแม่เหล็กดังต่อไปนี้

1. ความปลอดภัย:

  • ชิปการ์ดใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลที่ซับซ้อน เปรียบเสมือนกุญแจไขรหัสลับที่เฉพาะเครื่องอ่านที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงสามารถอ่านข้อมูลได้
  • ข้อมูลในชิปการ์ดจะถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอริทึมที่ซับซ้อน เปรียบเสมือนการล็อกข้อมูลด้วยกล่องเหล็กที่ยากต่อการโจรกรรม
  • ตัวอย่าง: มิจฉาชีพไม่สามารถคัดลอกข้อมูลบัตรชิปการ์ดไปทำบัตรปลอมเพื่อถอนเงินจากบัญชีของผู้ใช้ได้ง่ายเหมือนบัตรแบบแถบแม่เหล็ก

2. ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล:

  • ชิปการ์ดยากต่อการถูกสกิมข้อมูล เปรียบเสมือนกล่องเหล็กที่เก็บข้อมูลสำคัญไว้ภายใน ป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพสามารถล้วงข้อมูลได้ง่าย
  • ชิปการ์ดมีกลไกการป้องกันที่ทำให้เครื่องสกิมข้อมูลไม่สามารถอ่านข้อมูลบนชิปการ์ดได้ เปรียบเสมือนการปิดช่องโหว่ที่ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถคัดลอกข้อมูลบัตรได้
  • ตัวอย่าง: มิจฉาชีพไม่สามารถติดตั้งเครื่องสกิมข้อมูลบนตู้เอทีเอ็มเพื่อดักจับข้อมูลจากบัตรชิปการ์ดได้

3. รองรับมาตรฐานสากล:

  • ชิปการ์ดเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก ช่วยให้สามารถใช้บัตรในต่างประเทศได้สะดวก เปรียบเสมือนกุญแจสากลที่สามารถใช้ไขประตูได้ทั่วโลก
  • ผู้ใช้บัตรชิปการ์ดจากประเทศไทยสามารถใช้บัตรทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มหรือร้านค้าในต่างประเทศที่รองรับชิปการ์ดได้
  • ตัวอย่าง: นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถใช้บัตรชิปการ์ดเพื่อถอนเงินหรือชำระค่าสินค้าในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
 

เหตุผลหลักที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ชิปการ์ด:

1. ปัญหาการสกิมมิ่ง:

  • ในอดีต บัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กถูกโจรกรรมข้อมูลด้วยวิธีสกิมมิ่งบ่อยครั้ง เปรียบเสมือนการแอบถ่ายข้อมูลบนแถบแม่เหล็กของบัตร
  • ชิปการ์ดช่วยป้องกันปัญหานี้ได้เพราะยากต่อการคัดลอกข้อมูล
  • ตัวอย่าง:
    • สถิติการโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตในประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมีการเปลี่ยนมาใช้ชิปการ์ด
    • ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าจำนวนการโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กในปี 2560 ลดลง 70% เมื่อเทียบกับปี 2559

2. มาตรฐานสากล:

  • ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการยกระดับความปลอดภัยของระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เปรียบเสมือนการยกระดับระบบความปลอดภัยของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ
  • การเปลี่ยนมาใช้ชิปการ์ดเป็นการยกระดับระบบการชำระเงินของประเทศไทย
  • ตัวอย่าง:
    • ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากองค์กรระหว่างประเทศว่ามีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและทันสมัย
    • ในปี 2562 ประเทศไทยได้รับรางวัล "ประเทศที่มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยที่สุดในภูมิภาค"
 

สินค้าของทาง Econnec มีเครื่องอ่านบัตร ที่มีมาตรฐานระดับสากลที่รองรับการอ่านบัตร ATM, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแบรนด์ให้เลือกที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โดยตัวเครื่องอ่านบัตรยังสามารถอ่านบัตรประชาชนของกรมการปกครองได้อีกด้วย ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทางหน้าร้านค้าของเราได้เลยนะคะ

Smart Card Reader

  • ขายดี
    C292 เครื่องอ่านบัตรประชาชน สมาร์ทการ์ด แบบตั้งโต๊ะ Smart Card Reader เชื่อมต่อผ่าน USB 2.0
    620.00 บาท
    700.00 บาท  (-11%)
  • ขายดี
    uTrust 2700 R-S เครื่องอ่านบัตรประชาชน เชื่อมต่อผ่าน USB พร้อมฐานแบบแนวตั้ง รับประกัน 1 ปี
    1,450.00 บาท
    1,700.00 บาท  (-15%)
  • ใหม่ล่าสุด
    uTrust 2700R เครื่องอ่านบัตรประชาชน เชื่อมต่อผ่าน USB
    1,350.00 บาท
    1,500.00 บาท  (-10%)
  • ใหม่ล่าสุด
    bR301 BLE เครื่องอ่านบัตรประชาชนผ่านระบบ Bluetooth
    3,500.00 บาท
    4,500.00 บาท  (-22%)