สิทธิตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติถ้วนหน้า เป็นสิทธิที่คนไทยกว่า 47 ล้านคน ใช้เพื่อการรักษาพยาบาล ที่ผ่านมายังพบความไม่สะดวกสบายจากการใช้บริการในหลายประเด็น เช่น หากจะใช้สิทธิข้ามเขต จะต้องขอใบส่งตัว ซึ่งผู้ป่วยจะต้องเดินทางไปยังโรงพยาลประจำอำเภอ จับบัตรคิว รอคิว และรอออกใบส่งตัวกว่าครึ่งวัน หรือการใช้สิทธิบัตรทองสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และก้าวสู่สังคมดิจิทัล รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จึงเกิดนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อปิดช่องโหว่การให้บริการด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยจะเริ่มนำร่อง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส 

30 บาท รักษาทุกที่ : จองคิวออนไลน์ ลดเวลารอหมอที่โรงพยาบาล
แต่เดิมการไปหาหมอที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยจะต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้า เพื่อให้รับคิวแรก ๆ บางครั้งต้องไปตั้งแต่เช้าตรู่ กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการสอบประวัติ พบแพทย์ รับยา จ่ายเงิน คิวแรกของวันอาจจะต้องใช้เวลารอนาน 3 ชั่วโมง แต่การให้บริการรูปแบบใหม่ ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดนำร่อง จะสามารถจองคิวหาหมอผ่านแอปหมอพร้อมได้เลย โดยไม่ต้องไปจับบัตรคิวที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตรงตามเวลาที่นัดหมาย ก็สามารถโชว์หน้าจอหมอพร้อม พร้อมกับบัตรประชาชน เข้ารับบริการได้ทันที่ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคิวจะชนกัน เพราะว่าคิวไหนหากมีคนจองแล้วก็จะไม่สามารถจองซ้ำได้ 

หากในการไปพบแพทย์ แพทย์สั่งตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือตรวจแลป ผู้ป่วยก็สามารถเลือกรอรับบริการที่โรงพยาบาลได้ หรือจะเลือกไปใช้บริการที่แลปเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน โดยแพทย์จะสั่งตรวจแลป ออนไลน์ ส่งข้อมูลยังแลปเอกชน ผู้ป่วยก็จองคิวไปยังแลป เพื่อขอเข้ารับบริการ นอกจากนี้ยังสามารถรับยาที่บ้าน หรือ ที่ร้านยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครการได้ด้วย ลดเวลารอหมอ ลดเวลาอยู่โรงพยาบาล

30 บาท รักษาทุกที่ : เข้ารับบริการสถานบริการพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ทำฟัน กายภาพบำบัด ฟรี 

บัตรทองใบเดิมเราสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ ยกเว้นอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล แต่สิทธิประโยชน์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น คือ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการทันตกรรม กายภาพบำบัด ณ คลินิกที่เข้าร่วมโครงการด้วย โดยหัวสำคัญของการใช้บริการคือ จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่อนัดหมายเวลาและยื่นบัตรประชาชนใบเดียว เข้ารับบริการโดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาก่อน ถือเป็นสิทธิใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาจากบัตรเดิม

30 รักษาทุกที่ : ไม่ต้องขอใบส่งตัว และสามารถขอเอกสารทางแพทย์ดิจิทัล ผ่านหมอพร้อมได้เลย
มีผู้ป่วยจำนวนมาก ที่จำเป็นต้องเดินทางไปรักษาพยาบาลอื่น ที่ไม่ได้อยู่ในสิทธิของผู้ป่วย หรือการรักษาข้ามเขตจังหวัด ผู้ป่วยจำเป็นต้องไปขอใบส่งตัว ซึ่งต้องใช้เวลาพอๆกับเวลาที่ต้องไปรอหมอเพื่อตรวจโรค อย่างน้อย จับบัตรคิว รอหมอ พบหมอ รอออกเอกสาร อาจใช้เวลาเป็นครึ่งวัน เช่นเดียวกับ ใบรับรองแพทย์ ที่หากต้องใช้ที่ออกจากโรงพยาบาลของรัฐ ก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นครึ่งวันเช่นกัน

บัตรทองแบบใหม่ อัพสิทธิพิเศษให้โดยรัฐบาลชุดนี้ สำหรับจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด ผู้ป่วยที่ได้ยืนยันตัวตนเรียบร้อย มีข้อมูลสุขภาพทั้งหมด อยู่ในแอปหมอพร้อมแล้ว ไม่ต้องไปดำเนินการขอใบส่งตัวแบบเดิมอีก เพียงแต่มีหน้าที่นัดหมายวันไปพบแพทย์ หรือไปตามที่แพทย์นัด แล้วเสียบบัตรประชาชนในเครื่องอ่านบัตร ประวัติผู้ป่วยทั้งหมด วิธีการรักษา ยาที่ใช้ สามารถออนไลน์ได้ทันที หมอที่รับดูแลต่อ เปิดดูข้อมูลผ่านหน้าจอได้

ผู้ป่วยใน 4 จังหวัดนำร่อง ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี นราธิวาส หากเจ็บป่วยแล้วบังเอิญตอนนั้นเราอยู่ต่างจังหวัด เช่น คนร้อยเอ็ดไปเที่ยวแพร่ แล้วป่วยกะทันหัน ก็สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลแพร่ได้เลยทันที ไม่ต้องมีเอกสารยุ่งยาก ไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ในระยะต่อไป บัตรประชาชนใบเดียวจะสามารถใช้ได้ในทุกโรงพยาบาลทุกแห่ง ซึ่ง ณ เวลานี้ แต่ละจังหวัดก็จะเตรียมความพร้อม บรรจุข้อมูลสุขภาพของประชาชนทุกคนที่ใช้บัตรทองลงไปในระบบ

นอกจากนี้พิเศษมากคือ สามารถขอออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลผ่านแอปหมอพร้อมเพื่อใช้ไปประกอบการทำธุรกรรม นิติกรรมต่าง ๆ ของประชาชนได้เลย

30 บาท รักษาทุกที่  : ตรวจเลือด ตรวจแลปในสถานบริการเอกชน ตามใบสั่งดิจิทัลของหมอ ไม่ต้องรอคิว โรงพยาบาลรัฐ
ในผู้ป่วยบางราย ที่แพทย์ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยโรค เช่น ผลเลือด ผลตรวจปัสาวะ – อุจจาระ ก็จะเพิ่มเวลาในการอยู่โรงพยาบาลไปอีก จากเดิมจับบัตรคิว รอสอบประวัติ พบแพทย์ รอเจาะเลือด สั่งยา รับยา จ่ายเงิน แล้วหมอต้องนัดมาฟังผลตรวจอีก กินเวลาไป 2 วัน ที่ต้องไป โรงพยาบาล 

บัตรทองกับสิทธิใหม่ เมื่อหมอสั่งให้ผู้ป่วยตรวจแลป ผู้ป่วยสามารถขอรับบริการที่สถานบริการเอกชนได้ โดยให้หมอสั่งตรวจแลปไปยังสถานที่ที่จะเข้ารับบริการ ข้อมูลทั้งหมดทางสถานบริการเอกชนสามารถมองเห็นผ่านจอได้ทันทีที่ผู้ป่วยเข้ารับบริการแล้วเสียบบัตรประชาชน แล้วสามารถรายงานผลการตรวจผ่านทางออนไลน์ ไปยังหมอเจ้าของไข้ โดยไม่ต้องถือเอกสารกลับไปกลับมา สำหรับผู้ป่วยก็ลดเวลารอที่โรงพยาบาลนาน ส่วนการฟังผลตรวจก็ขึ้นอยู่กับการนัดระหว่างหมอกับผู้ป่วย ซึ่งอาจให้บริการแพทย์ทางไกล คือ ใช้วิดีโอคอล ผ่านแอปหมอพร้อมไปยังผู้ป่วยได้เช่นเดียวกัน

30 บาท รักษาทุกที่ : กับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง
สถานชีวาภิบาล หรือการดูแลระยะสุดท้าย ซึ่งเดิมจะดูแลในโรงพยาบาล แต่พบว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ประสงค์อยากกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน การดูแลระยะท้ายจะต้องดูแลโดยมีหลักวิชาการ ทั้งด้านแพทยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ โดยจะบูรณาการความร่วมมือทั้งหน่วยงานทางสังคม เช่น วัดในชุมชน ร่วมกับโรงพยาบาล โดยหากต้องการะพบแพทย์ก็สามารถใช้ระบบแพทย์ทางไกลได้ โดยผู้ป่วยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

30 บาท รักษาทุกที่: รับยาที่บ้าน หรือร้านยาเอกชน ให้บริการเภสัชกรรมออนไลน์
ถือว่าเป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับประชาชน หลังจากที่เข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรคแล้ว ผู้ป่วยสามารถรอรับยาที่โรงพยายาลได้ หรือสามารถแจ้งรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน โดยผู้ป่วยแสดงหน้าจอหมอพร้อม แล้วยื่นบัตรประจำตัวประชาชน ต่อเภสัชกร แล้วรับยาตามใบสั่งยาออนไลน์ที่ โรงพยาบาลสั่งจ่าย ซึ่งจะแสดงรายการยา ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของร้านยา

นอกจากนี้สามารถเลือกรับยาผ่านไปรษณีย์ แต่ตามหลักการจ่ายยาแล้วเภสัชกรจะต้องอธิบายวิธีการใช้ยาจึงจะเสร็จสิ้นกระบวนการ หมอพร้อมจะทำเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ โดยเภสัชกรจะทำวิดีโอคอลหาผู้ป่วยเพื่ออธิบายและแนะนำวิธีการใช้ยาให้ถูกต้อง

30 บาท รักษาทุกที่: พบแพทย์ทางไกล ไม่ต้องเดินทางไกล
ผู้ป่วยที่อาจจะต้องพบแพทย์เฉพาะทาง และแพทย์ท่านนั้นอาจประจำอยู่โรงพยาบาลจังหวัด หรือต่างจังหวัด ซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านของผู้ป่วย ผู้ป่วยสามารถขอรับบริการแพทย์ทางไกล หรืออาจเดินทางไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อขอเข้าพบแพทย์ผ่านทางออนไลน์ และสามารถเลือกรับยาที่บ้าน ร้านยาใกล้บ้าน หรือ ผ่านไปรษณีย์ได้เช่นเดียวกัน

30 รักษาทุกที่ : การบันทึกประวัติสุขภาพออนไลน์
สำหรับประชาชนที่ถือบัตรทอง เมื่อเริ่มต้นนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ข้อมูลด้านสุขภาพทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ในหมอพร้อม สามารถออนไลน์เชื่อมโยงถึงกันทุกโรงพยาบาล เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการตรวจสอบประวัติผู้ป่วย เพื่อวางแผนรักษา หรือรับเคสต่อเพื่อทำการรักษา สำหรับประชาชนในอนาคต หากข้อมูลชุดนี้แล้วเสร็จทั้งประเทศ ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วยอยู่ที่ไหนของประเทศไทย ก็สามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ ทั้งสถานพยาบาลของรัฐ - เอกชน (ที่เข้าร่วมโครงการ) แต่สำหรับ 4 จังหวัดนำร่อง ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี นราธิวาส สามารถใช้สิทธิเต็มระบบ และสิทธิข้ามจังหวัดเฉพาะกลุ่มจังหวัดนำร่อง ในวันที่ 8 มกราคม 2567 เป็นต้นไป และจะมีการขยายนโยบายนี้ สู่ประชาชนทั่วประเทศในเร็ววัน

30 บาทรักษาทุกที่ : การรักษาโรงมะเร็งครบวงจร
สิทธิที่เพิ่มเข้ามาจากสิทธิบัตรทองเดิม คือ การรักษามะเร็งครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเด็ก การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไป

เปิดขั้นตอนการดำเนินนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่
1. พัฒนาระบบบันทึกข้อมูล ทั้งจาก รพ.รัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นอกสังกัดสธ. รพ.เอกชน รพ.สต. คลินิก ร้านยา
2. พัฒนาระบบยืนยันตัวตน ทั้งการยืนยันตัวตนผู้รับบริการ เช่นดิจิทัลไอดี  ยืนยันตัวตนผู้ให้บริการ การตรวจสอบสิทธิ การยืนยันเข้ารับบริการ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ การยืนยันตัวตนคนต่างด้าว
3. พัฒนาระบบการทำงาน เช่น ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ สมุดสุขภาพประชาชน ใบรับรองแพทย์ดิจิทัล การนัดหมายออนไลน์ การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เป็นต้น
4. การพัฒนาระบบเชื่อมต่อประชาชน ทั้งการผ่าน LINE OA และ Application  เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงประชาชนทั้งประเทศ

มั่นใจความปลอดภัยด้านไซเบอร์
แม้ว่าการให้บริการบัตรทองแบบใหม่ จะทำผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด แต่รัฐบาลก็ให้ความสำคัญต่อเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยข้อมูลทั้งหมดของผู้ป่วยจะเก็บเป็นความลับ

ในส่วนของสินค้าเครื่องอ่านบัตรประชาชน ที่ใช้งานร่วมกับโปรแกรมของประกันสังคม สปสช ที่ใช้งานตามหน่วยงานต่างๆ ทาง Econnec มีเครื่องอ่านบัตรประชาชนจำหน่ายให้เลือกใช้งานหลากหลายรุ่นด้วยกัน หากลูกค้ามีความสนใจเครื่องอ่านบัตรประชาชน ที่จะนำไปใช้งานร่วมกับหน่วยงานของลูกค้า สามารถสอบถามได้ที่ Line ID : @econnec หรือ โทร 090-401-1144 สามารถเลือกชมสินค้าที่จำหน่ายในเว็บไซต์ของเราได้เลยนะคะ