เทคโนโลยี NFC ในวงการสุขภาพ: นวัตกรรมใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยี NFC ในวงการสุขภาพ: นวัตกรรมใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทคโนโลยี NFC ในวงการสุขภาพ: นวัตกรรมใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ

NFC (Near Field Communication) เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะใกล้ที่เราคุ้นเคยกันดีจากการจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟน กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการดูแลสุขภาพของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

NFC ทำอะไรได้บ้างในวงการสุขภาพ?

  • การจัดการข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล (Personal Health Record): แท็ก NFC สามารถเก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ประวัติการแพ้ยา ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยเมื่อนำแท็กไปแตะกับอุปกรณ์ที่รองรับ NFC เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเครื่องอ่านข้อมูลทางการแพทย์
  • การติดตามและดูแลสุขภาพผู้ป่วยเรื้อรัง: อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี NFC เช่น สายรัดข้อมือ หรือเครื่องวัดค่าต่างๆ สามารถช่วยติดตามสัญญาณชีพของผู้ป่วย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่ได้จะถูกส่งไปยังแพทย์หรือผู้ดูแลเพื่อติดตามอาการและปรับแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที
  • การจัดการยา: แท็ก NFC สามารถติดกับบรรจุภัณฑ์ยา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยจำได้ว่าต้องทานยาอะไรบ้าง และทานยาเมื่อไหร่ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของยาและป้องกันการปลอมแปลงยาได้อีกด้วย
  • การจองคิวพบแพทย์: ผู้ป่วยสามารถใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC เพื่อจองคิวพบแพทย์ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาล
  • การชำระค่าบริการทางการแพทย์: การชำระค่าบริการทางการแพทย์สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี NFC เพียงแค่แตะบัตรหรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC ที่เครื่องชำระเงิน
  • การระบุตัวตนของผู้ป่วย: แท็ก NFC สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความผิดพลาดในการให้บริการทางการแพทย์

 

ACR1255U-J1 เครื่องอ่านบัตร RFID MIFARE NFC แบบ Bluetooth อ่านบัตรแบบไร้สาย พกพาสะดวก รองรับการอ่าน NTAG ทุกชนิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประโยชน์ของ NFC ในวงการสุขภาพ

  • เพิ่มความสะดวกสบาย: ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพและบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น
  • เพิ่มความแม่นยำ: ลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลสุขภาพ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ช่วยให้แพทย์และพยาบาลสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดต้นทุน: ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ

ตัวอย่างการนำ NFC ไปใช้ในวงการสุขภาพ

  • สายรัดข้อมือสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง: ช่วยติดตามสัญญาณชีพและส่งข้อมูลไปยังแพทย์
  • บัตรประจำตัวผู้ป่วย: เก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล
  • เครื่องจ่ายยาอัตโนมัติ: ใช้ NFC เพื่อตรวจสอบข้อมูลยาและจ่ายยาให้ผู้ป่วย
  • แอปพลิเคชันสุขภาพ: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ NFC เพื่อติดตามสุขภาพ